ผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน  ผู้สมัครงานฝึกงาน และผู้ฝึกงาน

บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และผู้ฝึกงาน (รวมเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม  การใช้  และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบ  ทำลาย  ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่นๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้

1.วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

                   1.1  เพื่อใช้ในการดำนินการตามคำขอของท่านในการสมัครงานกับบริษัท เช่น การดำเนินการตามกระบวนการสรรหา การตรวจสอบคุณสมบัติ คัดเลือกก่อนการทำสัญญาจ้างเป็นพนักงาน รวมถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงการเข้าฝึกงาน  การจ่ายค่าตอบแทนการฝึกงาน การได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ (ตามฐานความยินยอม Consent)

1.2  เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น วิเคราะห์และจัดทำฐานข้อมูลการบริหาร  จัดการและปรับปรุงกระบวนการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน การประเมินผลการฝึกงาน การส่งข่าวสารที่เกียวข้องกับตำแหน่งงาน    การจัดทำสัญญาฝึกงาน  หรือสัญญาจ้างงานในกรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือก การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย       (ตามฐานความยินยอม Consent และฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย Legitimate Interest)

1.3  เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น  เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉินการควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ (ฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย Legitimate Interest)

1.4  เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ เช่น การยินยอมให้ส่งข้อมูลการสมัครข้าทำงานหรือการสมัครเข้าฝึกงานของท่านแก่บริษัท (ตามฐานความยินยอม Consent)

2.ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

                   2.1  ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในสมัคร ดังนี้

–  ข้อมูลตามเอกสารที่ท่านส่งหรือมอบให้แก่บริษัท เช่น Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายสมัครงาน        ใบสมัครงาน ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน ที่ท่านเป็นผู้ส่งเองโดยตรงทั้งทางอีเมล์ จดหมาย หรือผ่านเว็ปไซค์รับสมัครงาน

–  ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด น้ำหนัก ส่วนสูง รูปถ่าย เลขที่บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง  สัญชาติ ศาสนา  สถานะการสมรส  สถานะทางทหาร (กรณีเพศชาย)

–  ข้อมูลในการติดต่อกับท่าน เช่น ที่อยู่  E-mail  หมายเลขโทรศัพท์  ข้อมูลโซเชียลมีเดีย

–  เงื่อนใขในการปฏิบัติงาน เช่น  หากในอนาคตบริษัทพิจารณาว่ามีตำแหน่งที่เหมาะสมกับความความสามารถ   ของท่าน ท่านยินดีจะปรับเปลี่ยนหรือไม่

–  ข้อมูลของคู่สมรส บุตร บิดา มารดา เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ สถานที่ทำงาน และสถานะ

–  ข้อมูลกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินบริษัทสามารถติดต่อบุคคลในครอบครัว เช่น ชื่อ นามสกุล ความสัมพันธ์  สถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์

–  ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา  ความสามารถ  และการฝึกอบรม และคุณสมบัติอื่นๆ ของท่าน เช่น ระดับการศึกษา   วุฒิการศึกษา  สถาบัน/มหาวิทยาลัย  ปีที่เริ่มและจบการศึกษา  ผลการศึกษา  ประวัติการศึกษา  ประวัติฝึกอบรม  ผลการทดสอบ  คุณสมบัติด้านวิชาชีพ  ความสามารถทางด้านภาษา  และความสามารถอื่นๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่ท่านให้ได้แก่เรา

–  ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต  เช่น  ตำแหน่งงาน  รายละเอียดของนายจ้าง  เงินเดือนและค่าตอบแทน  สวัสดิการที่ได้รับ  ปีที่เริ่มและปีที่ลาออก  รายละเอียดหน้าที่งาน

–  ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ

–  ข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัวของท่าน เพื่อความปลอดภัยและสอดคล้องในการปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งที่ท่านสมัคร

–  ข้อมูลของท่านเกี่ยวกับการเคยได้รับโทษถูกจับกุม คุมขัง กักขังหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดี (เฉพาะตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการเงินหรือทรัพย์สิน กรณีตำแหน่งที่ไม่เกี่ยวข้องท่านมีสิทธิที่จะไม่ตอบในข้อนี้)

                   2.2  ข้อมูลจากการทำข้อมูลจากการทำแบบทดสอบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของท่าน  เช่น  นิสัย  พฤติกรรม  ทัศนะคติ      ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกตุและวิเคราะห์ของบริษัทในระหว่างที่ท่านทำแบบทดสอบ หรือเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัท

                   2.3  ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน

                   2.4  ข้อมูลที่รวบรวมจากท่าน เช่น ข้อมูลที่ท่านระบุหรือให้ไว้แก่บริษัท ข้อมูลที่ท่านแจ้งแก่บริษัทในระหว่างการสัมภาษณ์งาน

                   2.5  ข้อมูลที่ท่านเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม และบริการต่างๆ  ของบริษัทฯ

                   2.6  เอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่าน เช่น สำเนาเอกสารที่หน่วยงานที่รัฐออกให้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถ หนังสือเดินทาง และสำเนาเอกสารที่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนออกให้ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร ใบแสดงผลการเรียน

                   2.7  ข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการสรรหาและคัดเลือกพนักงานหรือนักศึกษาฝึกงาน การปฏิบัติตามสัญญาการฝึกงาน         การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์และการบริหารงานของบริษัทฯ และการปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ

                   2.8  สำหรับนักศึกษาฝึกงาน มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เช่น

                              –  ข้อมูลเกี่ยวกับ บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์

–  บัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงฝึกงาน

–  ลักษณะของผู้ฝึกงานและข้อมูลจากการฝึกงาน เช่น นิสัย พฤติกรรม ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความมีวินัย หรือลักษณะอื่นๆ รวมถึง   การบันทึกเวลาเข้าออกงาน และระยะเวลาในการปฏิบัติงาน เพื่อประเมินผลการฝึกงาน

                              –  ข้อมูลอื่นๆ เช่น รายละเอียดของผู้แนะนำ

                   2.9  กรณีที่ท่านได้รับคัดเลือกให้เป็นพนักงาน เราจะมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มตามที่กำหนดไว้ในนโยบายความ    เป็นส่วนตัวสำหรับพนักงาน

3.ข้อมูส่วนบุคคลชนิดพิเศษ

                   3.1  บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่เราแจ้งในในนโยบายส่วนตัวนี้

  –  ข้อมูลสุขภาพ  เช่น น่ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว ตาบอดสี เพื่อการคุ้มครองแรงงาน การประเมินความสามารถในการทำงาน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  –  ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เพื่อใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น (กรณีผ่านการคัดเลือกรับเข้าเป็นพนักงาน หรือเป็นนักศึกษาฝึกงาน)

   – ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงานและรักษาประโยชน์

     โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น (เฉพาะตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการเงินหรือทรัพย์สิน)

  –  ความเชื่อด้านศาสนา  เชื้อชาติ สัญชาติ ความพิการ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน

  –  ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน เพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม และสวัสดิการของพนักงาน (กรณีผ่านการคัดเลือกรับเข้าเป็นพนักงาน หรือเป็นนักศึกษาฝึกงาน)

                    3.2  ในกรณีที่จำเป็นบริษัท จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือ เพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้เบริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน

                    3.3  ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม ซึ่งจะเก็บจากการหลักฐานที่ท่านนำมาแสดงหรือหรือท่านยินยอมให้ตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด

4.การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

                   4.1  ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอน

ความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทฯ ได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว

                   4.2  หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทฯ หรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้

    4.3  ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่น ท่านรับรองว่าท่านมีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการรับทราบนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้และในการให้ความยินยอมแก่บริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

5.ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

                     5.1  บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลการสมัครงานของท่าน เอาไว้ไม่เกิน 1 ปีนับจากวันที่สมัครและจะทำการลบหรือทำลาย   เอกสารนี้ทั้งหมดเพื่อป้องกันการรั่วไหล

                     5.2  บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาความเหมาะสมของท่านในตำแหน่งนั้นเพื่อใช้ในการพิจารณาและติดต่อกับท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานอื่นที่บริษัทฯ เห็นว่าอาจเหมาะสมกับท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสมัครเข้าเป็นพนักงาน หรือเข้าฝึกงาน และหากท่านไม่ต้องการให้บริษัทฯ เก็บข้อมูลไว้เพื่อประกอบการพิจารณาตำแหน่งงานอื่น ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ตามช่องทางที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

                     5.3  กรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานเป็นพนักงาน หรือเข้าฝึกงาน บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป  ในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจ้างงานพนักงาน หรือการฝึกงานของท่าน

                     5.4  กรณีที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม  และบริษัทฯ ดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้

                      5.5  บริษัทฯ จัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

6.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น

                     6.1  นิติบุคคลอื่น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลากร  การจ้างงาน การรักษาความปลอดภัย  การตรวจสอบประวัติ การทดสอบคุณสมบัติและความสามารถ หน่วยงานของรัฐ  และบุคคลอื่นนที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการตามกระบวนการสรรหาและคัดเลือกแก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

6.2  บริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการป้องกันข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่างเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

7.มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

                     7.1  บริษัทฯ กำหนดให้พนักงานที่สามารถเข้าถึง เก็บรวบรวม ใช้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในใบสมัครที่ผู้สมัครเขียนเป็นประวัติย่อส่วนตัว (Resume/CV) หรือการมาเขียนใบสมัครที่บริษัทฯ หรือเขียนผ่านทางเว็ปไซด์รับสมัครของบริษัทฯ นั้น จะต้องเป็นพนักงานแผนกบริหารทรัพยากรบุคคลที่ได้รับมอบหมายหรือเกี่ยวข้องกับการรับสมัคร สัมภาษณ์ คัดเลือกและตกลงว่าจ้าง และผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานต้นสังกัด หรือคณะกรรมการสัมภาษณ์ที่บริษัทมอบหมายเท่านั้น  และไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ จากใบสมัคร หรือเอกสารประกอบการสมัครงาน หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ในระหว่างการสัมภาษณ์ หรือทดสอบ คัดเลือก ให้ผู้ที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทราบแต่ประการใด

                     7.2  กรณีเป็นการจัดเก็บโดยระบบอิเลคโทรนิคส์ต้องมีการเข้ารหัสผ่าน หรือใช้อุปกรณ์ที่กำหนดและมีระบบป้องกันการเข้าถึงอุปกรณ์ดังกล่าว และปลอดภัยจากการเข้าถึงของผู้ที่ไม่มีอำนาจ  หน้าที่ และป้องกันการเปลี่ยนแปลง แก้ไข ลบ ทำลาย 

                     7.3  กรณีที่เป็นเอกสารจะต้องมีการเก็บรักษาให้สามารถใช้งานได้และพร้อมใช้ในสถานที่ปลอดภัยจากผู้ที่ไม่มี อำนาจหน้าที่ในการเข้าถึงข้อมูล เช่น เก็บใส่ตู้หรือลิ้นชัก มีกุญแจป้องกันหรือภัยใดๆ ที่อาจทำให้ข้อมูลเสียหายซึ่งเก็บรักษาและควบคุมการใช้โดยผู้จัดการแผนกทรัพยากรบุคคลหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย

                     7.4  ฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญและการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลเหล่านี้

8.สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

                     8.1  ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครอบข้อมูลส่วนบุคคล สรุปดังนี้

                                    – ถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

                                    – ขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

                                    – ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

                                    – คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน

                                    – ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้

                                    – ระงับการใช้ข้อมูส่วนบุคคลของท่าน

                                    – แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของ่ทานให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

                                    – ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัท หรือผู้ประมวลผลข้อมูลรวมทั้ง

พนักงานของบริษัท  หรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

      – กรณีท่านมีข้อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สามารถดดูรายละเอียดได้ที่ ประกาศ เรื่อง สิทธิและวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลตาม พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

                                    ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

9.ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

      9.1  ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล : บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน)

      สถานที่ติดต่อ :  เลขที่ 77 ซอยเทียนทะเล 30 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล  แขวงท่าข้าม  เขตบางขุนเทียน

                                 กรุงเทพมหานคร

                     9.2  กรณีท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อ e-mail : [email protected] จึงประกาศมาเพื่อทราบและปฏิบัติตั้งแต่วันที่  1 เดือน  มิถุนายน พ.ศ.2565 เป็นต้นไปหรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวให้ทราบทันที